บริษัท กรีนเทอมินัล จำกัด (Green Terminal Co.,Ltd.) ผู้จัดหาและจำหน่ายเชื้อเพลิงสำหรับธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรม อาทิ ชีวมวล (กะลาปาล์ม กะลามะพร้าว แกลบ ฯลฯ) ถ่านหินบีทูมินัส และน้ำมันเตาทดแทน เดินหน้ารุกธุรกิจจำหน่ายพลังงานทดแทนแบบเต็มสูบ ขยายการจัดส่งทั่วประเทศ ล่าสุด เปิดโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ใน จ.สมุทรสาคร พื้นที่กว่า 5 ไร่ หวังใช้กองเก็บและควบคุมคุณภาพเชื้อเพลิงวัตถุดิบ
นายอัครเดช นิลจำรัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนเทอมินัล จำกัด เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ลงทุนไปราว 30 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินและก่อสร้างโรงงานคลังสินค้าแห่งใหม่สำหรับสต็อกสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ประกอบกับแนวคิดที่ต้องการจะควบคุมและดูแลคุณภาพสินค้าให้ได้ตามมาตรฐานการกองเก็บเชื้อเพลิงวัตถุดิบที่ดี เนื่องจากผู้จำหน่ายส่วนใหญ่จะกองเก็บสินค้าในที่โล่ง เมื่อสินค้าโดนฝนหรือน้ำค้างจะทำให้ค่าความชื้นและน้ำหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งการจำหน่ายเชื้อเพลิงประเภทนี้จะใช้น้ำหนักเป็นตัวกำหนดปริมาณการซื้อขาย น้ำหนักที่ลูกค้าได้ไปอาจจะมากก็จริง แต่กว่า 30-40% เป็นน้ำที่ยังไม่ระเหยออก และเราก็มองว่านั่นเป็นการเอาเปรียบลูกค้า ดังนั้น เราจึงต้องการสร้างมาตรฐานที่ดีให้กับสินค้าของเราด้วยการกองเก็บภายในอาคาร เพื่อให้ลูกค้าทุกรายได้รับสินค้าที่ดีและมีคุณภาพอย่างแท้จริง"
โรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ของบริษัท กรีนเทอมินัล จำกัด ตั้งอยู่ใน ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พื้นที่โดยรวมประมาณ 5 ไร่เศษ ประกอบด้วยอาคาร 2 หลัง ได้แก่ (1) อาคารคลังสินค้าขนาด 1,200 ตารางเมตร ซึ่งสามารถกองเก็บสินค้าภายในอาคารได้ประมาณ 3,000-5,000 ตัน และ (2) อาคารสำนักงาน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 1,200 ตารางเมตร ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเป็นถนนและลานโล่ง โดยในอนาคตคาดว่าจะก่อสร้างอาคารคลังสินค้า เฟส 2 ในพื้นที่เปล่าเพิ่มเติม
สำหรับการบริหารจัดการโรงงานและคลังสินค้า บริษัทฯได้นำระบบ Warehouse Management System (WMS) มาใช้ควบคุมดูแลการรับสินค้า การจัดเก็บสินค้า และการส่งมอบสินค้า ผ่านระบบไอที ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้มีมากยิ่งขึ้น ขณะที่ในส่วนของการบริหารจัดการรถขนส่งนั้น บริษัทฯเลือกที่จะนำระบบ Transportation Management System (TMS) มาใช้ควบคุมและจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการวิ่งรถบรรทุก ระยะทาง ระยะเวลา เชื้อเพลิง กฎหมายต่างๆ ฯลฯ โดยเป้าหมายสำคัญคือการมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการบริหารจัดการระบบขนส่ง ซึ่งลูกค้าจะต้องได้รับสินค้าที่ถูกต้อง ตรงต่อเวลา สร้างความพึงพอใจสูงสุด และบริษัทฯมีต้นทุนที่ต่ำที่สุดด้วย
นอกจากนี้ นายอัครเดชยังได้เผยถึงสถานการณ์ด้านพลังงานภายในประเทศด้วยว่า แม้เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้จะค่อนข้างซบเซา แต่สำหรับธุรกิจด้านพลังงานทดแทน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมถือว่าเติบโตได้ดีพอสมควร โดยจะเห็นได้จากผลประกอบการในปีนี้ของบริษัทฯที่โตขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 2 อันดับแรก ได้แก่ กะลาปาล์ม และถ่านหินบีทูมินัส ซึ่งปริมาณการจำหน่ายโตขึ้นแบบก้าวกระโดดกว่า 120% และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีก ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการหันมาให้ความสนใจกับพลังงานทางเลือกมากขึ้น โดยหลายๆ โรงงานเริ่มมีการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและระบบการผลิตให้สอดรับกับการใช้พลังงานทดแทน และคาดว่าในอนาคตจะมีโรงงานหลายแห่งที่ปรับสู่การใช้พลังงานทดแทนแบบ 100% ทั้งระบบอย่างแน่นอน
"ปัจจุบันสินค้าคุณภาพดีอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับการทำธุรกิจ การบริการและการรับรู้ถึงความต้องการของลูกค้าถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตและสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี ซึ่งกรีนเทอมินัลไมได้แค่ขายสินค้าอย่างเดียวแล้วจบ แต่เรามีบริการให้คำปรึกษา แนะนำ รวมถึงการช่วยลูกค้าแก้ไขปัญหาในหลายๆ เรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ระบบเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรมอีกด้วย นั่นจึงทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับความเอาใจใส่ที่ดีจากเรา และเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยู่ในใจของลูกค้าเสมอมา" นายอัครเดช กล่าว
ที่มา http://thewindustry.com/business/detail/7434s2y2